ต้องยอมรับเลยว่าตลาดการขายของออนไลน์ยังคงมีอัตราการเติบโตที่เพิ่มขึ้นสูงอย่างต่อเนื่อง แถมยังเป็นแนวโน้มการขยายตัวแบบก้าวกระโดด ด้วยเหตุผลนี้จึงทำให้เปอร์เซ็นต์การแข่งขันเริ่มสูงเพิ่มขึ้นตาม ซึ่งวิธีแก้เกมยอดนิยมที่ธุรกิจออนไลน์มักจะเลือกใช้ คงไม่พ้นการใช้เครื่องมือยิง Ads เพื่อสร้างการรับรู้และเพิ่มยอดการเข้าถึงของกลุ่มเป้าหมายที่คาดหวัง
แม้ว่าในช่วงแรก ๆ จะได้ผลลัพธ์ที่เป็นอย่างใจ แต่บอกเลยว่าไม่ใช่กับยุคสมัยที่แพลตฟอร์มต่าง ๆ ได้พัฒนาระบบให้เข้าถึงได้ยากมากขึ้น แต่อย่าเพิ่งกังวลใจไป เพราะวันนี้เราได้ขนเทคนิคการยิง Ads จากมืออาชีพมาบอกต่อให้แก่ผู้ประกอบการ พร้อมเก็บเกี่ยวเป็นความรู้สร้างยอดขายแบบปัง ๆ ได้เลย!
ศึกษาและกำหนดกลุ่มเป้าหมาย
ทุก ๆ ครั้งก่อนเริ่มแคมเปญการตลาด สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ Data หรือข้อมูลของกลุ่มคนที่คาดว่าจะเป็นลูกค้าของเรา โดยจะต้องเริ่มทำการรวบรวม ศึกษา และวิเคราะห์ให้ดี เพื่อทำการกำหนดกลุ่มเป้าหมายที่เหมาะสม โดยวิธีสังเกตง่าย ๆ ฉบับผู้ประกอบการขนาดเล็ก หรือกลุ่มตัวแทนจำหน่ายที่อยากให้ร้านค้าของตัวเองมียอดขายพุ่ง สามารถเริ่มได้ง่าย ๆ จากสิ่งเหล่านี้
- ช่วงอายุที่มีความสนใจในกลุ่มสินค้าประเภทเดียวกันหรือใกล้เคียงกับที่ขาย
- ภูมิลำเนาที่อยู่อาศัย
- ศึกษาพฤติกรรมซื้อสินค้าผ่านทางออฟไลน์และออนไลน์
หลังจากเก็บรวบรวมข้อมูลได้ครบ ให้นำมาวิเคราะห์เพื่อสร้างกลยุทธ์ในการสื่อสารให้เหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นทั้งตัวคอนเทนต์ แคปชัน ตลอดจนกราฟิกและรูปที่ใช้ รวมไปถึงโปรโมชัน ลักษณะการขายที่ตอบโจทย์ และเวลาที่ใช้สื่อออนไลน์ ทั้งนี้ก็เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของการยิง Ads ให้ส่งตรงไปถึงกลุ่มเป้าหมายได้ดีที่สุด
เสริมอีกนิดสำหรับเทคนิคการยิง Ads ที่นักการตลาดมืออาชีพนิยมใช้อย่าง “การศึกษาคู่แข่งทางธุรกิจ” ตั้งแต่เทคนิคการโปรโมตสินค้า ทิศทางของการสื่อสารที่ใช้ ตลอดจนข้อดีและข้อเสีย เพื่อนำข้อมูลทั้งหมดมาพัฒนาร้านของคุณให้มีจุดเด่น พร้อมดึงดูดลูกค้าได้ดีกว่า นับว่าเป็นเทคนิคที่ช่วยให้บรรลุเป้าหมายที่เหนือกว่าการเพิ่มยอดขายทั่ว ๆ ไป เพราะคุณจะได้ลูกค้าที่ตรงกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น โดยไม่ต้องทุ่มงบให้เปลืองไปกับการหว่านแหโฆษณาแบบวัดดวงอีกต่อไป
เตรียมทุกองค์ประกอบให้พร้อมก่อนเริ่มยิง Ads
กว่าจะมาเป็นโพสต์ที่พร้อมใช้ในการยิง Ads เพื่อโปรโมตสินค้าและสร้างยอดขายนั้น ต่างก็ประกอบไปด้วยองค์ประกอบที่หลากหลาย เริ่มตั้งแต่ตัวสินค้า ผลิตภัณฑ์ กล่องบรรจุภัณฑ์ ตลอดจนสถานที่และพร็อปสำหรับการถ่ายสินค้าให้ดูเป็นมืออาชีพ ประกอบกับการเขียนแคปชันตามจุดประสงค์ของแต่ละโพสต์ที่ต้องการสร้างแคมเปญ
จะเห็นได้ว่า กว่าจะมาเป็นโพสต์สำหรับโปรโมตจะต้องประกอบไปด้วยหลากหลายขั้นตอน ฉะนั้นแล้วการเตรียมองค์ประกอบให้พร้อมจะช่วยให้คุณประหยัดเวลา และวางแผนการยิง Ads ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ทั้งยังช่วยลดข้อผิดพลาดที่จะทำให้เกิดการ Cover Lead ของค่าโฆษณา
อย่างที่บอกกันไปในข้างต้นถึงแนวโน้มการเติบโตของตลาดออนไลน์แบบก้าวกระโดด ส่งผลให้มีคู่แข่งจำนวนมากเกิดขึ้น ทั้งยังแย่งชิงส่วนแบ่งในตลาดกันอย่างดุเดือด แต่ถ้าอยากจะเป็นผู้ที่ยืนอยู่เหนือพีระมิดแห่งความสำเร็จ นอกจากการยิง Ads ที่มีประสิทธิภาพแล้ว “การสร้างจุดแข็ง” ให้ตัวเองยังเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ทำให้คุณสามารถเอาชนะคู่แข่งได้อย่างมั่นใจ
ในส่วนของแนวทางการสร้างจุดแข็งสามารถถ่ายทอดได้ผ่านการสื่อสารที่เป็นเอกลักษณ์ ทั้งสำนวนภาษา ลักษณะการทำคอนเทนต์ ตลอดจนกราฟิกที่ดีไซน์มาแบบเฉพาะตัว ซึ่งทั้งหมดนี้สามารถทำให้กลายเป็นกระแสไวรัล หรือเข้าถึงผู้คนได้มากขึ้นด้วยการใช้เทคนิคยิง Ads แบบมืออาชีพที่เกริ่นไปในข้อข้างต้น นอกจากนี้ อย่าลืมที่จะนำเสนอถึงจุดแข็งของสินค้า ไม่ว่าจะเป็นส่วนประกอบ ประโยชน์ หรือจุดเด่นที่ไม่มีใครเหมือน ทั้งหมดนี้จะเป็นตัวช่วยเสริมสร้างจุดแข็งที่จะทำให้คุณก้าวข้ามคู่แข่งไปได้อย่างง่ายดาย
เลือกช่องทางการขายที่ตอบโจทย์มากที่สุด
เพราะในปัจจุบันต่างก็มีแพลตฟอร์มออนไลน์เกิดขึ้นมากมาย ทั้งยังมีช่องทางที่ถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์การขายของออนไลน์โดยเฉพาะ ทำให้ผู้คนมีตัวเลือกในการใช้บริการมากขึ้น ดังนั้นการเลือกช่องทางสำหรับวางขายสินค้าจึงสำคัญเป็นอย่างมาก บอกเลยว่ายอดขายจะปังหรือแป้กก็วัดได้จากตรงนี้เลย!
ซึ่งแต่ละช่องทางเองก็มีลักษณะพฤติกรรมการซื้อสินค้าของกลุ่มเป้าหมายที่แตกต่างกันออกไป ในส่วนนี้เองก็มีผลต่อการวิเคราะห์กลยุทธ์ที่จะใช้สนับสนุนกับเทคนิคการยิง Ads ของร้านค้า ดังนั้นต้องเลือกให้สอดคล้องกับกลุ่มเป้าหมายของเรามากที่สุด จะได้ไม่เป็นการเปลืองงบโดยใช่เหตุ แถมยังจะทำให้ทุนจม ไม่สามารถทะลุยอดขายได้อย่างที่ตั้งเป้าเอาไว้
กำหนด KPI และวัดผลการยิง Ads แต่ละตัว
เทคนิคการลงโฆษณาให้ปังไม่ได้ขึ้นอยู่กับตอนตั้งค่าเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่การติดตามเพื่อเก็บข้อมูลระหว่างที่โฆษณาอยู่ในช่วงดำเนินการก็เป็นปัจจัยสำคัญเช่นเดียวกัน ด้วยชุดตัวเลขที่เรียกกันว่า KPI นั้นจะเป็นตัวบ่งบอกถึงประสิทธิภาพได้เป็นอย่างดี
ซึ่งผู้ประกอบการจะต้องเป็นคนกำหนดค่า KPI ขึ้นมาให้แก่งานแต่ละชิ้นด้วยตัวเอง เพื่อเป็นตัวชี้วัดถึงผลลัพธ์ในการยิง Ads ว่ามีคุณภาพต่อการเพิ่มยอดขายมากแค่ไหน เช่น อัตราคลิกโฆษณาควรจะมากกว่า 1% ของคนที่เห็นโฆษณา หรือกำหนดอัตราการซื้อที่ไม่ควรต่ำกว่า 2% หลังการคลิกโฆษณา เพื่อวัดผลในแคมเปญที่มีจุดประสงค์ในการสร้าง Conversion เป็นต้น แน่นอนว่าการติดตามผลทั้งหมดนี้จะช่วยให้คุณมองเห็นภาพรวมของประสิทธิภาพการโฆษณาได้อย่างครบถ้วน พร้อมนำข้อบกพร่องของแคมเปญที่ไม่ทะลุ KPI มาปรับปรุงได้อย่างสมบูรณ์
เทคนิคการยิง Ads นี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ที่นักการตลาดมือทองนิยมใช้ ทั้งยังเป็นแนวทางการเพิ่มประสิทธิภาพที่สามารถทำได้อย่างง่ายดาย ปรับมาให้เข้ากับลักษณะการบริหารสำหรับร้านค้าออนไลน์โดยเฉพาะ
หากใครที่อยากเรียนรู้เทคนิคการปั้นธุรกิจออนไลน์ในระดับที่แอดวานซ์ยิ่งขึ้น ติดต่อได้เลยที่ Dealer The iCon พร้อมลงคอร์สเรียนการตลาดกับผู้เชี่ยวชาญโดยเฉพาะ ให้คุณสามารถบริหารธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งยังสร้างกำไรได้มากกว่าที่เคย การันตีผลลัพธ์ปัง ๆ โดยอาจารย์ผู้มีประสบการณ์ที่ปั้นธุรกิจขายของออนไลน์สำเร็จมาแล้วมากมาย หากคุณพร้อมที่จะเป็นหนึ่งในคนที่ประสบความสำเร็จ สมัครเลย!
